หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ทำความรู้จัก TPBI

หุ้นน้องใหม่ที่จะเข้าตลาดหุ้นเร็วๆ นี้

TPBI ผู้นำอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ครบวงจรระดับโลก
ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม

เรามาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นอีกหน่อย
ติดตามรายละเอียดได้ในการ์ตูนเลยจ้า

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tpbiipo.com






วันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

Trigger Fund แบบใหม่ Stop Loss ได้แล้วนะรู้ยัง



ปีนี้ Product ทางการลงทุนใหม่ๆ เปิดตัวออกมาเพียบเลย
ล่าสุดมีกองทุน Trigger Fund ตัวใหม่ ที่สามารถ Stop Loss ได้ด้วยนะ
ประมาณการผลตอบแทนระหว่าง -5% ถึง +10% ในระยะเวลาหนึ่งปี
เป็นกองทุนสำหรับมือใหม่ที่ขอเสี่ยงน้อยหน่อย แต่ได้ลุ้นผลตอบแทนดีกว่าฝากแบงก์

อ่านรายละเอียดได้ในการ์ตูนจ้า


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.scb.co.th/line/smart-trade/index.html

นี่หุ้นอะไร?

เคยเจอเพื่อนชอบบอกข้อมูลหุ้นมั่วๆ มั้ย
#ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ก็ได้นะ #BJCHI

วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

K Mobile Banking PLUS :: ลงทุนกองทุนรวมออนไลน์ง่ายจัง

นักลงทุนหลายคนคงเคยเจอปัญหานี้...ช่วงตลาดหุ้นตกหนักๆ จะมีความอยากซื้อกองทุนรวม แต่ไม่มีเวลาไปซื้อซะที กว่าจะว่างไปซื้อ หุ้นก็ขึ้นละ! พลาดโอกาสซื้อหน่วยลงทุนต้นทุนต่ำไปหลายครา

แต่ปัญหานี้จะหมดไป เพราะตอนนี้เราสามารถซื้อกองทุนผ่านมือถือได้แล้ว อยากซื้อกองทุนตอนไหน ก็ซื้อได้เลยทันที ไม่ต้องไปธนาคาร ไม่ต้องต่อคิว แถมซื้อ LTF/RMF ก็ไม่ต้องจ่ายเงินสดอีก! (เพราะจ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ 555)

ด้วยแอพ K Mobile Banking PLUS แค่ขยับนิ้วแค่ 3 - 4 ที หน่วยลงทุนมากองตรงหน้าแล้ว ง่ายดายอะไรปานนั้น? เชิญอ่านรีวิวได้ในการ์ตูนจ้า

#ซื้อกองทุนกสิกรผ่านมือถือก็ได้ง่ายจัง #KMobileBankingPLUS





วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

NUSAONE :: ลงทุนอสังหาลั้ลลา



สำหรับผู้ที่สนใจซื้ออสังหาฯ เพื่อลงทุน ปล่อยเช่า หรือเก็งกำไร
ต้องไม่พลาดศึกษาโปรดักส์ใหม่ที่ชื่อ NUSA ONE
เป็นการลงทุนรูปแบบใหม่ที่นอกจากการการันตีค่าเช่าแล้ว
ยังมีอะไรมากกว่านั้น ติดตามได้ในการ์ตูนจ้า ^^





สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ไปงานเปิดตัวบ้านเพื่อสุขภาพได้ 
ที่งาน “บ้านเพื่อสุขภาพ BEYOND HEALTHY BEING”  
5-7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 
ณ ลานกิจกรรม เอ็มโพเรียม แกลลอรี่ ชั้น M ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม 
งานนี้มีโปรโมชั่นเพียบ ลงทะเบียนล่วงหน้าที่ www.nusasiri.com 

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

6+1 เหตุผล ที่น่าลงทุนในบ้านสุขภาพ




ทราบหรือไม่ว่าปัจจุบัน ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว (มีผู้สูงอายุมากกว่าร้อยละ 10 จากประชากรทั้งหมด ) เข้ามาตั้งแต่ปี 2548 ประมาณ 10 ปีแล้วด้วย และจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข คาดว่าภายในปี 2568 ไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ จำนวนผู้สูงอายุจะมีประมาณ 14.4 ล้านคนจากประชากรทั้งหมดประมาณ 64-65 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด กล่าวคือจะมีผู้สูงอายุ 1 คน ในประชากรทุกๆ 5 คน

ด้วยเหตุนี้เทรนด์รักสุขภาพจึงมาแรงขยายไปสู่ทุกกลุ่ม ทุกโปรดักส์  ในด้านการลงทุนเอง นักลงทุนคงสังเกตได้ว่าหุ้นที่เกี่ยวกับสุขภาพก็มาแรง ทั้งเครื่องดื่มสุขภาพ การทำสปา คลินิกความงาม และที่เห็นชัดๆ คือโรงพยาบาล หุ้นเหล่านี้ล้วนให้ผลตอบแทนดีในช่วงที่ผ่านมา

และนี่เป็น Big Move ของกลุ่มอสังหาฯ ที่จะมาจับเรื่องสุขภาพบ้าง กับ “บ้านสุขภาพ” แห่งแรกของประเทศไทย NUSA My OZONE ใจกลางเขาใหญ่   “บ้านสุขภาพ” มีอะไรต่างจากบ้านทั่วๆ ไปบ้าง แล้วทำไมเราถึงควรลงทุนใน “บ้านสุขภาพ” มาดูกัน

1. ทำเลของบ้าน เนื่องจากเป็นบ้านเพื่อสุขภาพ จึงต้องเลือกทำเลเพื่อสุขภาพ โครงการนี้จึงตั้งอยู่ในทำเลที่ใกล้แหล่งโอโซนอันดับ 7 ของโลก แวดล้อมด้วยเทือกเขา อาทิ เขายายเที่ยง เขาแผงม้า เขาน้อย และทิวเขาใหญ่  บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ เป็นพื้นที่สีเขียว 900 ไร่ คิดเป็น75 % ของพื้นที่โครงการ และใกล้แหล่งท่องเที่ยวที่รับความนิยม  อาทิ  วนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  วังน้ำเขียว  ตลาดน้ำเขาใหญ่  จิมทอมสันฟาร์ม ฯลฯ

2. ตัวบ้านถูกออกแบบโดยคำนึงถึงผู้อยู่อาศัยสูงวัย ที่ต้องได้รับการดูแลเอาใส่ใจเป็นพิเศษ เช่น ทางลาดเข้าบ้านสำหรับผู้ใช้วีลแชร์,ประตูแบบสไลด์,สวิตซ์ไฟระบบสัมผัส,พื้นบ้านระนาบเดียวกัน ฯลฯ ในส่วนของพี่เม่าเองเคยขาหัก พบว่าบ้านที่อยู่ปัจจุบันออกแบบไม่ค่อยรองรับกับผู้ที่ขามีปัญหาเลย แค่จะไปไหนมาไหนในบ้านยังลำบาก แต่บ้านสุขภาพที่นี่ถือว่าตอบโจทย์

3. สุขภาพที่ดีก็ต้องมาจากการออกกำลังกาย ในโครงการมีสนามกอล์ฟมาตรฐานโลก จำนวน 18 หลุม สไตล์ Linked course ออกแบบโดย LINKS GOLF SERVICES และสปอร์ตคลับ ที่เพียบพร้อมด้วยสนามกีฬากลางแจ้งและในร่ม ท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขา ช่างเหมาะสำหรับการออกกำลังกายซะจริงๆ ต่อจากนี้จะมีข้ออ้างอะไรได้อีก 555+

4. มีเทคโนโลยีการดูแลสุขภาพแบบล้ำๆ ด้วยเครื่องตรวจเช็คสุขภาพอยู่ภายในบ้านไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน ความดัน เมื่อตรวจเช็คผ่านเครื่องค่าต่างๆก็จะขึ้นโชว์ไปที่ศูนย์พานาซี เมดิคอล เซ็นเตอร์ ที่พร้อมปรึกษา คอยแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพของคุณอย่างถูกต้องทั้งในเรื่องการต่อต้านริ้วรอย ตรวจเซลล์เลือด วารีบำบัด การรับประทานวิตามินควบคู่กับการรักษาจากเซลล์ภายในที่ทุกคนในครอบครัวสามารถขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญผ่านระบบได้ตลอด 24 ชั่วโมง

5. มีระบบแจ้งเตือน Smart alert สำหรับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน และอุ่นใจกับระบบรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉินด้วยเฮลิคอปเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องกังวลเรื่องการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยผิดวิธีอีกต่อไป

6. สุขภาพดีก็ต้องมาจากการกินอาหารที่ดีด้วย ที่นี่จึงมีฟาร์มผักออแกนิคที่ปลูกผักปลอดสารพิษขนาด 5 ไร่ เพื่อนำไปใช้สำหรับประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ และบริการเสิร์ฟอาหารถึงประตูบ้านตลอด 24 ชั่วโมง

และอีกหนึ่งเหตุผลสำหรับนักลงทุน
7. สามารถลงทุนได้ผ่านทางโครงการ NUSA ONE ที่การันตีผลตอบแทนปีละ 6.5% ตลอด 6 ปี และจากสถานที่ตั้งที่อยู่ในทำเลที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง ทำให้ผู้ลงทุนมั่นใจได้ว่ามูลค่าของสินทรัพย์จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สนใจบ้านสุขภาพเพิ่มเติม ไปงานเปิดตัวบ้านเพื่อสุขภาพได้ ที่งาน 
“บ้านเพื่อสุขภาพ BEYOND HEALTHY BEING”  
5-7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559 
ณ ลานกิจกรรม เอ็มโพเรียม แกลลอรี่ ชั้น M ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มโพเรียม 
งานนี้มีโปรโมชั่นเพียบ ลงทะเบียนล่วงหน้าที่ www.nusasiri.com 


ญี่ปุ่นดอกเบี้ยติดลบคืออะไร



กลับมาพบกันอีกครั้งในช่วงสาระมีอยู่จริง ที่นานๆ จะมีมาที (แรร์นะ ต้องอ่าน)
เมื่อวานนี้คงได้ยินข่าวว่าญี่ปุ่นประกาศดอกเบี้ยติดลบ -0.1%
หลายคนมีคำถามในใจว่าแล้วมันจะเกิดไรขึ้น ชั้นต้องตื่นเต้นมั้ย
เอาตามทฤษฎีก่อนนะ ประเทศที่มีดอกเบี้ยติดลบจะส่งผลให้
1. แบงก์อยากปล่อยกู้ (การเก็บเงินไว้ที่แบงค์เฉยๆ มีค่าใช้จ่าย)
2. คนใช้จ่ายมากขึ้น (ฝากเงินแล้วต้องเสียตังค์ให้แบงค์ เอามาช้อปให้กระจายดีกว่า)
3. เงินในประเทศนั้นอ่อนค่า ดีกับการส่งออก นักท่องเที่ยวก็ชอบ
แต่สำหรับญี่ปุ่นที่ประกาศดอกเบี้ยติดลบออกมา ยังไม่ใช่ดอกเบี้ยเงินฝากที่ชาวบ้านเอาไปฝากแบงก์แล้วติดลบนะจ๊ะ

‪‎แล้วมันดอกอะไร?‬

เป็นดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินเอาไปฝากธนาคารกลาง (BOJ) ซึ่งเงินที่เอาไปฝาก ก็ยังถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดอกแต่ละกลุ่มก็ไม่เท่ากันอีก
1. เงินกลุ่ม Basis Balance ตามนโยบาย QQE ดอกเบี้ยยังคง 0.1% เหมือนเดิม
2. เงินกลุ่ม Marco Add-on เป็นเงินสำรองของสถาบันการเงิน เงินสำรองสำหรับปล่อยกู้เพื่อภัยพิบัติ พวกนี้ดอกเบี้ย 0%
3. เงินกลุ่มเงินส่วนเกิน ที่เกินมาจาก 2 ข้อนั้นเรียก Policy Rate Balance ตรงนี้แหละที่ว่าดอกติดลบ -0.1% พูดง่ายๆ คือถ้าสถาบันเงินเหลือเยอะ เอาเงินไปฝากธนาคารกลางต้องเสียตังค์ค่าฝากนั่นเอง

ที่ต้องทำงี้เพราะช่วงนี้ประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ จริงๆ ก็เคลมว่ากำลังฟื้นแหละ แต่ว่าราคาน้ำมันก็ดิ่งเหลือเกิน แถมจีนก็ดูลูกผีลูกคน ธนาคารกลางญี่ปุ่นเลยต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้สถาบันการเงินเอาเงินที่มีอยู่ไปปล่อยกู้เพิ่มขึ้น อย่าให้เงินนอนแห้งในธนาคารกลางเฉยๆ เพื่อให้เกิดการลงทุนมากขึ้น จ้างงานมากขึ้น สุดท้ายคนก็ใช้จ่ายมากขึ้นนั่นเอง
นักวิเคราะห์หลายคนมองว่านี่ยังเป็นแค่น้ำจิ้ม อีกสักพักอาจได้เห็นดอกเบี้ยเงินฝากติดลบแบบสวิซเซอร์แลนด์ก็เป็นได้ (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของญี่ปุ่นอยู่ที่ประมาณ 0.026% ต่อปี )
และหลังจากประกาศนโยบายนี้ออกมา เงินเยนก็อ่อนค่าทันตาเห็น

ช่วยกันแปลเชิญที่ https://www.boj.or.jp/…/announcem…/release_2016/k160129a.pdf