หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

จุดเริ่มต้นของความเป็นเม่า

เมื่อก่อน...พี่เม่าเคยนึกอยากเป็นเจ้าของกิจการค่ะ...
เนื่องจากเป็นคนโลภ กิเลสหนา เกินกำลังเงินที่หาได้ในแต่ละเดือนจากเงินเดือนอันน้อยนิด จึงพยายามหารายได้เสริม ในตอนแรกมองหากิจการแฟรนไชน์ ตั้งให้เป็นระบบ แล้วกะจ้างคนมาเฝ้าร้าน แต่พอลองศึกษารายละเอียดแล้วพบว่าตอนตั้งกิจการนั้นยุ่งกว่าที่คิด ทั้งเงินทุนและแรงงาน เนื่องด้วยยังไม่กล้าพอที่จะลาออกจากงานไปทำธุรกิจส่วนตัวเต็มตัว (กลัวเจ๊งค่ะ) โครงการเปิดร้านขายอะไรสักอย่างจึงต้องล้มพับไป

ต่อมาเริ่มมองหาสิ่งที่ทำอยู่แล้วในแต่ละวัน ถ้าสามารถสร้างรายได้เสริมได้ก็น่าจะดีไม่น้อย จึงได้ไอเดียกิจการบางอย่างขึ้นมา... แต่ไม่ว่าจะเป็นกิจการไหน เจ้าของกิจการก็ต้องเผชิญความยากลำบากทั้งนั้น...

เหตุการณ์ในตอนนี้ เป็นเรื่องของพี่เม่าก่อนจะรู้จักตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยค่ะ ^^









ชอบบล็อกนี้อย่าลืมไปร่วมโหวตให้หน่อยนะคะ Thailand blog award สมัครสมาชิกแล้วจะมีคะแนนท่านละ 15 คะแนนค่ะ โหวตได้วันละ 1 บล็อก โหวตซ้ำได้ เข้ามากดโหวตวันละครั้งในช่องสีม่วงนะคะ ขอบคุณมากจ้า ^___^

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เกษตรกรรมกับการลงทุน

ในตลาดหุ้นก็คล้ายสังคมขนาดย่อมแห่งหนึ่ง ซึ่งมีบุคคลหลายประเภทปะปนกันอยู่ นักลงทุนแต่ละท่านก็จะมีสไตล์การลงทุนเป็นของตนเอง ไม่ว่าจะประสบการณ์มาก-น้อยแค่ไหน ซึ่งความแตกต่างนี้เกิดจากลักษณะนิสัยของแต่ละบุคคล แม้จะมีจุดเริ่มต้นพร้อมๆกัน อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน ศึกษาจากอาจารย์ท่านเดียวกัน แต่เชื่อเถอะค่ะว่า พื้นฐานของแต่ละคน (หรือกรรมเก่า?) ไม่เหมือนกัน ทำให้การเลือกหุ้น จังหวะการเข้าซื้อ และผลตอบแทนจากตลาดต่างกัน...

ซึ่งจังหวะการเข้าซื้อหุ้นของแต่ละท่าน ก็มีเทคนิคหลากหลาย แต่ล้วนมีความสอดคล้องกับลักษณะสังคมเกษตรของไทยอย่างน่าประหลาดจริงๆ ค่ะ หลายท่านคงสงสัย มันเกี่ยวข้องกันได้ยังไงกันล่ะเนี่ย...? ต้องติดตามในการ์ตูนนะคะ ^^

ปล. ฝากเพื่อนๆ ถ้าชอบการ์ตูนเม่าและอยากให้กำลังใจผู้วาด ช่วยกันโหวตบล็อกนี้หน่อยนะคะ เริ่มโหวตวันที่ 25 กค เป็นต้นไป ผู้โหวตต้อง register แล้วจะได้คนละ 15 คะแนน โหวตได้วันละ 1 คะแนนนะคะ โหวตซ้ำบล็อกเดิมได้ ช่วยๆๆๆกันกดโหวตกันวันละ 1 ครั้ง กำลังใจจากการโหวตอาจทำให้อิฉันได้ไปเกาหลีค่ะ ^^ โหวตได้ที่นี่เลยค่ะ http://www.thailandblogawards.com/blogs/show/334

รบกวนโหวตช่องแรกสีม่วงนะคะ Business Blog (เพราะดูมีอนาคตสุด) ถ้าโหวตหลายช่องเกรงว่าคะแนนจะกระจายแล้วไม่ได้สักหมวดอ่ะค่ะ







มีบทความการลงทุนในมุมมองชาวประมง จาก ดร. นิเวศน์นะคะ ท่านเขียนไว้หลายปีแล้ว แต่ดิฉันอ่านแล้วยังรู้สึกทันสมัยอยู่เลยค่ะ ผู้สนใจแนว VI ตามไปอ่านได้ค่ะที่ บรรยากาศแห่งการลงทุน โดย ดร.นิเวศน์

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตทำงาน VS ชีวิตเล่นหุ้น

"อยากนั่งเฉยๆ แล้วได้ตังค์" เป็นสิ่งที่ดิฉันคิดมาตลอดตั้งแต่เริ่มทำงานวันแรกเลยค่ะ
เพื่อนๆ หลายคนมาเห็นดิฉันเขียนแบบนี้ บางคนก็ขำ คิดว่าอีนี่เพี้ยนจริงๆ นั่งเฉยๆแล้วได้ตังค์จะเป็นไปได้อย่างไรในโลกทุนนิยมเสรีแบบนี้ ต้องทำงานสิถึงจะได้ตังค์

แต่ดิฉันก็เพิ่งค้นพบว่ามี!! การลงทุนในหุ้น คือคำตอบ...


เชื่อว่าคงมีมนุษย์เงินเดือนหลายท่าน ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเป็นอิสระทางการเงินโดยไว มีเงินทุนสักก้อน แล้วเลิกทำงานเป็น Employee ผันตัวเองมาเป็น Investor แบบเต็มเวลา ปล่อยให้เงินทำงานโดยอาศัยกฎของกลไกตลาดทุน แล้วเราก็มีเวลาและเงินเพื่อไปค้นหาความหมายที่แท้จริงของชีวิต...

ในทางทฤษฎีมันช่างสวยหรูจังเนอะ





วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Ceiling

ใครบอกว่าคนเล่นหุ้นต้องรวย เป็นความเชื่อผิดๆนะจ๊ะ


เพราะในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีหุ้นราคาถูกระดับเศษสตางค์อยู่ด้วย โดยเงินลงทุนน้อยสุดในการเทรดครั้งหนึ่งคือ 1 บาท (ขั้นต่ำ 100 หุ้น ราคาหุ้นละ 1 สตางค์) ไม่รวมค่าคอม ^^ (มันส่งคำสั่งได้จริงหรือเปล่าคะ ไม่เคยลอง)

หุ้นไม่เต็มบาท หรือ Penny Stock นี้มีข้อดีคือ ถ้าซื้อถูกตัว กิจการกลับมารุ่ง รวยไม่รู้เรื่องแน่นอน เพราะแค่ขึ้นช่องเดียวนี่วิ่งไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์
แต่สิ่งที่ควรระวังคือ
1. หุ้นอาจถูก SP เมื่อไหร่ก็มิอาจคาดเดาได้
2. อาจโดนเจ้ามือมาเก็บตอนหนึ่งสตางค์ แล้วปล่อยข่าวหลอกๆตามเน็ต ตามสื่อสิ่งพิมพ์ ให้เหล่าเม่าเข้าไปซื้อในราคาหลายสตางค์ (เม่าติดดอยสูงหลายร้อยเปอร์เซ็นต์)
3. ซื้อยาก ขายยาก ขาดสภาพคล่อง
4. หุ้นตัวเล็กเกินจนนักลงทุนไม่คุ้นในกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่แตกต่างออกไปจากหุ้นใหญ่ อาจทำให้การเทรดผิดพลาดได้

เป็นข้อเตือนใจไว้ว่าก่อนจะลงทุนในหุ้นควรศึกษากฎการเทรดให้ดีก่อนนะคะ ^^

ปล. ระบบ Comment ของ blogger จะกรอง Spam อัตโนมัตินะคะ ท่านไหนไม่เห็น comment ตัวเองขึ้น พี่เม่าไม่ได้ลบเด้อ ระบบมันกรองไว้ ต้องไปกด public น่ะ ถึงจะโชว์ ><



วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เอาชนะเงินเฟ้อ

คงมีหลายคนคิดว่า การเก็บเงินไว้ในแบงค์ เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากเงินต้นไม่หายแถมยังได้ดอกเบี้ยมาด้วย

จริงๆแล้ว ไม่แน่เสมอไปนะคะ
เพราะอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่หลายเท่า
(ดูอัตราเงินเฟ้อได้จากเวปไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทยนะคะ)

เหมือนว่ายิ่งฝากเงินยิ่งลดลงเรื่อยๆ
ดังนั้นการเก็บเงินฝากไว้เฉยๆ รอดอกเบี้ยงอกเงย ดูท่าจะไม่ใช่วิธีที่ดีนัก เพราะดอกเบี้ยที่ได้มาก็ไม่สามารถต้านทานอัตราเงินเฟ้อได้ รู้อย่างนี้แล้วเราคงอยู่เฉยๆไม่ได้ ต้องหาวิธีให้เงินทำงาน ซึ่งมีหลายวิธี บางท่านอาจคิดว่า ช่างมันเถอะ เงินยังน้อยอยู่ ขี้เกียจคิดมากปวดหัว อย่าคิดอย่างนั้นนะคะ เพราะเราควรเตรียมพร้อมสำหรับความร่ำรวยอยู่เสมอ ลองเริ่มต้นจากน้อยๆก่อนนี่แหละดีแล้วค่ะ ถึงผิดพลาดขึ้นมาก็เสียไม่เยอะ (เพราะมีแค่นี้ ฮ่าๆ) ถ้าเกิดวันนึงรวยขึ้นมา (อาจจะถูกหวยโดยบังเอิญ) ก็จะได้บริหารเงินของตัวเองด้วยตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ



วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เม่า@Moneytalk

ดิฉันได้รับเกียรติให้เป็นแขกรับเชิญรายการ moneytalk เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาค่ะ
จริงๆเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าทึ่งมาก ว่าการ์ตูนที่วาดๆไปนั้นจะไปผ่านสายตาผู้หลักผู้ใหญ่พอร์ตระดับพันล้าน จนท่านสนใจติดต่อมาให้ไปออกรายการ O_o

จริงๆตอนแรกที่ทำ maoinvestor ก็ไม่ได้คิดจะเปิดเผยว่าผู้วาดเป็นใคร (เพราะว่ากะจะวาดเอาขำ วาดแล้วหนีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว) เลยตัดสินใจโพสผลงานในห้องสินธรบอร์ดพันทิป เพราะสินธรเป็นห้องรวมนักลงทุนหลายสไตล์ แบบร้อยพ่อพันแม่ สมาชิกผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาโดยตลอด ตอนที่โพสๆไปแรกๆไม่ได้คิดอะไรมากเลยค่ะ คิดแค่ว่าไหนๆวาดมาแล้วก็อยากให้คนอื่นได้อ่านด้วย ในฐานะผู้สร้างสรรค์ผลงานย่อมชอบอยู่แล้วที่มีคนเข้ามาอ่านเยอะๆ แล้วที่พันทิป ชื่อล็อกอิน ไม้ไต่คู้ ค่อนข้างไร้นาม ซึ่งก็เป็นผลดี เพราะการที่ผู้อ่านไม่รู้จักผู้เขียนก็จะทำให้ไม่เกิดอคติ โฟกัสที่ผลงานที่สร้างโดยคนที่คุณไม่รู้ว่าใคร ซึ่งนั่นสามารถทำให้ผู้เขียนมีอิสระในการโม้ได้อย่างไม่จำกัด

แต่ที่ตัดสินใจไปออกรายการเนื่องจากอยากเจอเซียนค่ะ (คิดน้อยไปมั้ย?) อารมณ์ว่าไอดอลในดวงใจมาเชิญเอง จะปฎิเสธมันก็ไม่ใช่ละ!! (คือก่อนเล่นหุ้นอ่านหนังสือ ดร.นิเวศน์ไปหลายเล่ม) และก็คงไม่ใช่เรื่องปรกตินักที่นักลงทุนในระยะเริ่มต้นอย่างเรา จะมีโอกาสได้ไปออกรายการ moneytalk ได้ คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังคิดตัดสินใจลงทุนในตลาดหุ้น คือแม้เราไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุด แต่เราก็สามารถแชร์ในสิ่งที่เราผิดพลาดให้คนที่เดินตามหลังรับรู้ได้ และอีกอย่างเป็นการโปรโมตบล็อกไปในตัวด้วยเลย ขยายฐานผู้อ่านได้อีก (จริงๆที่ทำทุกวันนี้ยังไม่ได้ตังค์อะไรเลยนะคะ ทำไปเพื่ออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน 5555 แต่ไหนๆชาตินี้ได้เกิดมาแล้ว ก็อยากลองทำอะไรสักอย่างให้มันเต็มที่กะชีวิตไปก่อน)

ตอนแรกก็ไม่กล้าเอาไปโพสต์โปรโมตที่สินธรเลยค่ะ ที่เราจะไปออกรายการ moneytalk เพราะว่ากระดากใจขึ้นมานิดนึงว่า ตรูจะไปตั้งหัวข้อว่าอะไรดีหนอ เพราะเทปคราวก่อนคือคุณ pak สัมภาษณ์ดีมาก มีแนวคิดของหุ้น turnaround สุดเป็นการเป็นงาน คนฟังแล้วได้อะไรเยอะ ส่วนเรานี่เหมือนเป็นอัตชีวประวัติมากกว่าเพราะไม่มีหลักการเจ๋งๆอะไรไปแชร์ แถมพูดจาไม่ค่อยจะรู้เรื่อง คนดูคงไม่ค่อยได้อะไรมากจากการดูเทปนี้ เลยไม่กล้าไปตั้งกระทู้ชักชวนใครให้มาดู ได้แต่โปรโมตใน Facebook ตัวเอง ^^

แต่ก็มีเพื่อนๆหลายท่านช่วยโปรโมตให้ แถมมีกระทู้รายงานสดอีกต่างหาก คนดูก็เยอะกว่าที่คาดมาก กระแสตอบรับค่อนข้างดี มีแฟนเพจเพิ่มขึ้นมาก ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนมากๆเลยนะคะ

สามารถดูย้อนหลังได้ที่นี่ค่ะ
moneytalk


ส่วนอันนี้เป็นเบื้องหลัง