หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรียนรู้ลงทุนกับ ก.ล.ต. :: เฟ้นหาหุ้นพื้นฐานดี




การค้นหาหุ้นดีๆ สักตัว จริงๆ แล้ว ไม่ได้เริ่มที่กระดานหุ้น คำแนะนำของโบรกเกอร์ หรือลอกเพื่อนมา แต่เป็นวิธีง่ายๆ คือการสังเกตจากสินค้าและบริการที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน  แค่มองหาสินค้าที่เป็นผู้นำในตลาด คนจำเป็นต้องซื้อ ยี่ห้อเป็นที่นิยม หรือเป็นสินค้าเจ้าเดียวในตลาด คนอื่นเข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดได้ยาก

เมื่อพบสินค้าและบริการที่ถูกใจ และเป็นของบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้นแล้ว ก็มาพิจารณาปัจจัยด้านคุณภาพ และราคา กันต่อ ว่าดีจริงอย่างที่ตาเห็นหรือเป็นเพียงแค่ภาพลวง

- ปัจจัยด้านคุณภาพ ดูได้จาก
  •  รูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model)  ตั้งแต่การผลิต การตลาด การจัดจำหน่าย การส่งมอบสินค้า การบริการหลังการขาย การบริหารบุคคล 
  • ความได้เปรียบทางการการแข่งขัน   เช่น เป็นสินค้าหรือบริการที่ลูกค้ามีความยากลำบากที่จะเลิกใช้  หรือ บริษัทมีข้อได้เปรียบทางด้านต้นทุนการผลิต  (ต้นทุนผลิตต่ำ) มีจุดแข็งทางการตลาด โดยมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือ มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
  • ผลการดำเนินงาน ฐานะการเงินและหนี้สินของบริษัท  ยอดขายเติบโต  มีกำไรอย่างต่อเนื่อง จ่ายปันผลสม่ำเสมอ  เงินสดมีเหลือเฟือ หนี้สินต่ำมาก 
  • ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด มีเงินสดสิ้นงวดสูง 
  • ผู้บริหาร มีวิสัยทัศน์ มองอนาคตไกล ซื่อสัตย์ ไม่มีประวัติเสียหาย ทุจริต ผิดจริยธรรม เอาเปรียบผู้ถือหุ้น คู่ค้า หรือผู้บริโภค 

- ปัจจัยด้านราคา ดูได้จาก 
  • ราคากำไรต่อหุ้น (P/E Ratio)
  • ราคาหุ้นต่อมูลค่าทางบัญชี (P/B Ratio)
  • อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield)
  • มูลค่าตลาดของหุ้น (Market Capitalization)

การหา 'หุ้นพื้นฐานดี' นั้น ไม่น่ายากเกินความสามารถและเราสามารถค้นหาได้ด้วยตัวเราเอง  ยิ่งถ้าเราเข้าใจในธุรกิจที่เราลงทุนแล้ว เราก็ไม่ต้องไปกังวลกับสภาพของตลาดหุ้นที่ผันผวนให้มากนัก และสามารถลงทุนด้วยความมั่นใจมากขึ้นค่ะ ^^







(พื้นที่โฆษณาตัวเอง) พี่เม่าเปิดขายเคสมือถือจ้า
สนใจสั่งซื้อ (Pre-Order) ได้ที่ http://www.maoinvestor.com/p/blog-page_18.html

ปล. หมดเขตสิ้นเดือนนี้ ใครยังไม่สั่ง ระวังตกรถนะคะ 

วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หุ้นเพิ่มทุน

นักลงทุนที่ลงทุนมาสักระยะแล้ว คงเคยได้ยินคำว่า "หุ้นเพิ่มทุน" มาบ้าง

ดิฉันเองตอนเข้ามาเริ่มลงทุนใหม่ๆ ก็เคยได้ยินเรื่องราวของนักลงทุนท่านหนึ่งที่เจ็บจากหุ้นเพิ่มทุนมาบ้าง เรื่องคร่าวๆ คือ หุ้นที่ถืออยู่ทำการเพิ่มทุน แต่เขาไม่ได้ใช้สิทธิ์เพิ่มทุน เนื่องจากไม่มีเงินพอ แต่ก็ยังคิดว่าหุ้นตัวนี้ยังมีอนาคตอยู่ จึงไม่ได้ทำการขายออกไป และทิ้งไว้ในพอร์ต ในขณะที่บริษัทก็ยังคงทำการเพิ่มทุนอีกหลายรอบ จนในที่สุดราคาหุ้นก็ dilute ไปจนขาดทุนมหาศาล


การเพิ่มทุนมันทำร้ายเม่าได้มากขนาดนี้เชียวฤา ?
การเพิ่มทุนไม่ใช่เรื่องราวดีๆ หรอกหรือ ?
แล้วถ้าวันนึงแจ็คพ็อต หุ้นที่เราถืออยู่เพิ่มทุนขึ้นมา จะทำยังไงล่ะทีนี้...?
เม่าตอนนี้มีคำตอบ :-)


ขอบคุณกระทู้ดีๆ จากคุณหมอ -=Jfk=- คนดังแห่งห้องสินธร พันทิป จุดประกายให้เกิดเม่าตอนนี้ขึ้นมาค่ะ ^^
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่
http://pantip.com/topic/30441522/

 


 

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรียนรู้ลงทุนกับ ก.ล.ต.:: จัดตระกร้าหุ้นด้วยมืออาชีพ


มีหุ้นตั้งหลายตัวที่น่าสนใจ ตัวนึงพื้นฐานดี อีกตัวนึงก็ story ดี แต่เงินเรามีจำกัด แล้วจะลงทุนตัวไหนดีล่ะ ?

จริงๆ แล้วยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ที่ช่วยในการลงทุนอีก คือ กองทุนรวมหุ้น และ ETF หุ้น

-กองทุนรวมหุ้น ซื้อได้จาก บลจ.  ซึ่งมีทีมผู้จัดการกองทุนคัดสรรหุ้นดีๆ เข้าพอร์ต ช่วยลดภาระในการวิเคราะห์หุ้นด้วยตัวเอง และลดภาระในการติดตามผลการดำเนินงานของกิจการ สามารถลงทุนได้ทั้งหุ้นในประเทศ และต่างประเทศ เช่น จีน เอเชียแปซิฟิก

- ETF หุ้น เป็นกองทุนหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ สามารถกระจายความเสี่ยงได้เหมือนกองทุนรวม แต่ซื้อขายได้เหมือนหุ้น  สามารถอ่านรายละเอียด ETF ได้ใน http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=1847&Itemid=1581


ฟังดูไม่ยากแฮะ แบบนี้ถึงเป็นเม่าก็ลงทุนได้นะเนี่ย ^^