หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2556

เรียนรู้ลงทุนกับ ก.ล.ต. :: กองทุนเปิด VS กองทุนปิด

กองทุนรวมมีหลายประเภทผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับความต้องการหรือเป้าหมายทางการเงินของตนเองได้
ซึ่งสามารถแบ่งตามประเภทของการขายคืนหน่วยลงทุน ได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. กองทุนเปิด (Opened - End Fund) คือ กองทุนรวมที่สามารถขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมและต่อเนื่องได้หลังจากที่มีการเสนอขายหน่วยลงทุนในครั้งแรกไปแล้ว รวมถึงสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนจากนักลงทุนเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา กองทุนประเภทนี้จึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะสามารถซื้อขายได้ง่ายและสะดวก และมีสภาพคล่องสูงกว่ากองทุนปิด

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจะยังไม่ทราบว่าราคาซื้อขายหน่วยลงทุนจะเป็นเท่าไรในทันที ณ เวลาที่ทำรายการสั่งซื้อขายนั้น เนื่องจากต้องคอยจนกว่าจะมีการคำนวณ NAV (Net Asset Value: NAV) ต่อหน่วยของกองทุน ณ สิ้นวันทำการเสียก่อน

2. กองทุนปิด (Closed - End Fund) คือ กองทุนรวมชนิดที่ บลจ. ไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยจะมีการกำหนดอายุโครงการอย่างชัดเจนแน่นอน และเปิดให้มีการจองซื้อหน่วยลงทุนเพียงครั้งเดียวเมื่อเริ่มต้นโครงการหลังจากนั้นก็จะไม่มีการออกขายหน่วยลงทุนเพิ่มเติมแต่อย่างใด ทำให้จำนวนของหน่วยลงทุนของกองทุนคงที่ ไม่มีการเพิ่มขึ้น หรือลดลง สามารถขายคืนเมื่อครบกำหนดอายุโครงการเท่านั้น(ราคาที่ บลจ. รับซื้อคืนหน่วยลงทุนจะมีมูลค่าเท่ากับ NAV ต่อหน่วย เมื่อครบกำหนดอายุโครงการแล้ว)

ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในกองทุนปิด นักลงทุนควรคิดพิจารณาให้ดีเสียก่อนว่าระยะเวลาการลงทุนในกองทุนนั้นมีความสอดคล้อง และเหมาะสมกับระยะเวลาที่ตนเองต้องการใช้เงินในอนาคตหรือไม่ เพราะการลงทุนในกองทุนปิดถือเป็นการลงทุนในระยะยาว และมีสภาพคล่องในการซื้อขายน้อย

อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายให้แก่นักลงทุน ทาง บลจ. สามารถนำหน่วยลงทุนของกองทุนปิดที่ตนเป็นผู้บริหารไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดรอง เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ แต่จะต้องมีการเปิดบัญชีซื้อขายกับบริษัทหลักทรัพย์ (Broker) ก่อน จึงจะสามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้

ดังนั้นก่อนลงทุนในกองทุนรวมประเภทไหนต้องศึกษาและวางแผนให้ดีก่อนนะคะ ไม่เช่นนั้นอาจได้รับบทเรียนแบบเม่าก็ได้



อ่านจบแล้ว ถ้าเห็นว่าบล็อกนี้เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน ก็ช่วยโหวตเป็นกำลังใจให้พี่เม่าหน่อยนะจ๊ะ ในงานประกวด Thailand blog award 2013 จ้า ขอบคุณทุกท่านจ้า

ตามลิงก์นี้เลย โหวตโลดดด http://www.thailandblogawards.com/entry/view/341



 

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

หมาลากเลื่อน

ตอนนี้ไม่เกี่ยวกับหุ้นนะจ๊ะ อิอิ แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับพี่เม่าและอัลฟรองเซ่แอนด์เดอะแกงค์ อ่านจบแล้วก็อย่าลืมช่วยกันโหวตบล็อกเป็นกำลังใจให้พี่เม่าด้วยนะคะ ขอบคุณทุกท่านจ้า http://www.thailandblogawards.com/entry/view/341




 
 

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

รู้ทันหุ้นกับพี่เม่า

ประกาศโปรดทราบ ^^
หนังสือซีรีย์พี่เม่า ได้ออกวางแผงแล้วจ้า
เล่มนี้เม่าค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ขึ้น (แต่ยังเป็นเม่าอยู่) และมีเนื้อหาสาระเพิ่มขึ้น แน่นขึ้นกว่าที่อ่านในบล็อกจ้า ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ซื้ออ่านเองหรือซื้อฝากลูกฝากหลานก็ได้ค่ะ อิอิ ขอบคุณทุกท่านค่ะ
หาซื้อได้ที่ซีเอ็ดทุกสาขา และตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปค่ะ ราคาเล่มละ 200 บาท
หรือซื้อผ่านเว็บซีเอ็ดได้ลด 5% ค่ะ

 



วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2556

ขอเชิญร่วมโหวตบล็อกแมลงเม่าในงาน Thailand Blog Awards 2013

ปีนี้พี่เม่าได้ส่งตัวเองเข้าประกวด Thailand blog award 2013
ขอเชิญทุกท่านช่วยกันโหวตบล็อกพี่เม่าให้ผ่านเข้ารอบหน่อยนะจ๊า ^^

โหวตได้ตามลิงก์นี้เลย (โหวตได้ทุกวันวันละหนึ่งครั้ง จนถึงวันที่ 6 ตค จ้า)
http://www.thailandblogawards.com/entry/view/341

 

วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

เรียนรู้ลงทุนกับ ก.ล.ต. :: รู้จักกองทุนรวม

Step แรกของการลงทุนของหลายๆ ท่านคือการลงทุนผ่านกองทุนรวม
 
กองทุนรวม คือ การลงทุนรูปแบบหนึ่งที่ผู้ลงทุนหลายๆ คนนำเงินลงทุนมารวมกัน และมอบหมายให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการลงทุน และได้รับใบอนุญาตในการบริหารจัดการกองทุนรวมจาก ก.ล.ต.
 
บลจ. ทำหน้าที่บริหารกองทุนรวมให้เกิดดอกออกผล โดยนำเงินลงทุนของกองทุนรวมไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินประเภทต่าง ๆ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น เป็นต้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนของกองทุนรวมนั้น  โดยผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับจากการลงทุนในกองทุนรวมอาจเป็นในรูปเงินปันผล (กรณีกองทุนรวมมีนโยบายจ่ายเงินปันผล) หรือ กำไรส่วนเกินทุน (กรณีที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นและผู้ถือหน่วยลงทุนขายคืนหน่วยลงทุน)
 
ข้อดีของการเลือกลงทุนในกองทุนรวม
  • มีมืออาชีพ คือ บลจ. บริหารเงินให้เรา โดย บลจ. จะมีผู้จัดการกองทุนที่มีความรู้และประสบการณ์ทำหน้าที่ในการดูแลเงินลงทุน จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาติดตามการลงทุนอย่างใกล้ชิดด้วยตนเอง
  •  
  • มีการกระจายความเสี่ยงนำเงินไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารที่หลากหลาย
  •  
  • มีเงินน้อยก็ลงทุนได้ บางกองทุนรวมมีเงินเพียงหลักพันบาทก็เปิดบัญชีซื้อขายกองทุนรวมได้
  •  
  • มีสภาพคล่อง (กรณีกองทุนเปิด) ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนได้ตามเวลาที่ บลจ.กำหนด
  •  
  • มีช่องทางในการซื้อขายที่หลากหลาย เช่น ผ่านตัวแทนขายของ บลจ. ผ่าน ATM ผ่าน internet เป็นต้น

ข้อจำกัดของการลงทุนในกองทุนรวม
  • ผู้ถือหน่วยลงทุนไม่สามารถเลือกหลักทรัพย์ที่จะลงทุนเป็นรายตัวได้ เช่น หากรู้สึกไม่ชอบหุ้นของบางบริษัทที่กองทุนรวมเลือกลงทุนก็ต้องยอบรับการตัดสินใจลงทุนของผู้จัดการกองทุนนั้นๆ
  •  
  • กองทุนรวมมีค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง เช่น ค่าธรรมเนียมในการจัดการกองทุนรวม แม้จะไม่มีการซื้อขายหน่วยลงทุนเพิ่มในช่วงเวลาที่ลงทุนก็ตาม(ต่างจากกรณีที่ลงทุนโดยตรงผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่าย หรือ Brokerage fee เฉพาะเมื่อมีคำสั่งซื้อหรือขายเท่านั้น)
สำหรับคนที่อยากลงทุนแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี การลงทุนผ่านกองทุนรวมก็เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่ค่อยมีประสบการณ์และเวลาค่ะ ^^




วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

ทุนนิยม

ในระบบทุนนิยม ที่มี"เงิน"เป็นพลังงานขับเคลื่อน และการแข่งขันอย่างเสรี ผู้ขยันทำงานก็ได้ผลตอบแทนอย่างงามเป็นรางวัล แต่แท้ที่จริงแล้ว ผู้ที่อยู่ใต้ระบบนี้จะต้องทำงานไปเรื่อยๆ เพื่อแลกกับเงินเพื่อประทังชีวิต เหมือนหนูที่อยู่ในกรง กินอาหารดีๆ แต่ต้องถีบจักรตลอดเวลาให้กับนายทุน

ซึ่งการจะหลุดออกจากวงโคจรนี้ได้ แนวทางหนึ่งคือการมี passive income คือรายรับที่เราไม่ต้องเหนื่อยทำงาน คือการเป็นอิสระทางการเงินนั่นเอง
แต่การได้มาซึ่ง passive income บางอย่างนั้น ก็ยังอยู่ภายใต้ระบบทุนนิยมเหมือนกันนะจะบอกให้