สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่าเจ๊ง

ในยุคการสื่อสารไร้พรมแดน อินเตอร์เน็ตแพร่หลายสู่ทุกครัวเรือน แหล่งข้อมูลข่าวสารมากมายต่างเข้าถึงได้โดยอิสระ
ถามว่ามีผลต่อตลาดหุ้นมั้ย?

คาดว่าน่าจะค่อนข้างมีผลพอสมควรนะคะ

เนื่องจากนักลงทุนมีทางเลือกในการรับสารมากขึ้น มีทางเลือกในการมีสังคมตามเวปบอร์ดต่างๆ รวมถึงมีทางเลือกในการสั่งเทรดหุ้นด้วยตัวเอง ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่เราต้องเทรดผ่านนายหน้า (มาร์เก็ตติ้ง) เท่านั้น ถ้าถามว่าสองแบบนี้ต่างกันยังไง ก็คงต่างกันที่ค่าคอมมิชชันล่ะมั้งคะ เทรดเองถูกกว่า (นักลงทุนประเภทนี้มาร์มักไม่ค่อยรัก) ^_^

น้องเม่าจริงๆแล้วเธอก็เป็นสาวไอทีนะคะ ใช้คอมพิวเตอร์ได้ค่อนข้างดีเหมือนเป็นอวัยวะที่ 33 ของร่างกาย ดังนั้นการสั่งซื้อ-ขายหุ้นด้วยตัวเองเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับเธอ สิ่งที่ยากก็คือ จะซื้อตัวไหนดี? จะขายเมื่อไหร่ดี? นี่สิปัญหา....

สำหรับเพื่อนๆที่สงสัยว่าทำไมราคา Match ไม่เป็น 704 นะคะ เพราะเนื่องจากเวลาเคาะ Offer ระบบมันจะ Match ตัวที่ Bid สูงสุดปัจจุบันให้เพื่อป้องกันการทุบราคา จริงๆแล้วช่วงตลาดเปิด มัน 706 จริงค่ะ แต่พอช่วงตอนน้องเม่าเคาะซื้อ ตลาดเปิดมาได้สักพัก แล้วมันค่อยๆลงมา(แบบเร็ว)แล้ว (แต่คนวาดไม่ได้แก้รูป ขออภัยนะคะที่อาจสร้างความสับสนให้ผู้อ่าน งวดหน้าจะระวังขึ้น ไม่สะเพร่าแล้ว ><'' คนอ่านอ่านกันละเอียดจริงๆค่ะ ในฐานะคนทำผลงานดีใจที่มีผู้ตั้งใจอ่าน และช่วยกันทักเข้ามา ยังไงก็ฝากช่วยสอดส่องข้อผิดพลาดในงานต่อๆไปด้วยนะคะเพื่อจะได้พัฒนาผลงานต่อไป อาจมีหลุดๆ แบบนี้อีก ^_^) 

เอากราฟช่วงเวลาประมาณก่อนสิบครึ่งมาให้ดูว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร พอดีช่วงนั้นมีแรงขายมาเพียบจริงอะไรจริง order คุณเธอเลยตามน้ำไปด้วย *0* (หรือว่าจริงๆเป็นของ คุณเม่า เซเลบทั้งหมด? ก็เป็นไปได้นะเนี่ย ฮี่ๆ)

เปลี่ยนม้ากลางศึก

เคยมีคำกล่าวโบราณบอกไว้ว่า "นักรบไม่ควรเปลี่ยนม้ากลางศึก" เพราะจะทำให้พ่ายแพ้ต่อสงคราม และทำให้กลยุทธ์ที่วางไว้เกิดความเสียหาย เม่าเองก็เคยได้ยินคำกล่าวนี้มานาน แต่ยังไม่เคยเข้าใจอย่างลึกซึ้ง จนกระทั่งได้มาพบกับตัวเอง การเปลี่ยนม้ากลางศึกของเม่าเป็นอย่างไร โปรดติดตามได้เลยจ้า......

คำเตือน: ในช่วงตลาดที่ยังไม่ชัดเจนและผันผวนสูง เพื่อนๆ อย่าเปลี่ยนม้ากลางศึกกันนะจ๊ะ แล้วจะหาว่าเม่าไม่เตือน อิ อิ  (^.^)

เมื่อเม่าพบเซียนหุ้น (ตอนพิเศษ)

วันก่อนมีโอกาสได้ไปร่วมงาน เฮฮาประสาวีไอ Q1/54 มาค่ะ เป็นเกียรติมากได้นั่งรับประทานอาหารร่วมกับเหล่าเซียนหุ้น เห็นเพื่อนเม่าบอกว่าโต๊ะที่ดิฉันไปนั่งนั้นพอร์ตรวมกันหมื่นกว่าล้าน (ดิฉันไปทำอะไรที่นั่น!!)
ตื่นเต้นมากได้เจอ ดร. ตัวจริงเสียงจริง จริงๆ ดร. ท่านเป็นแรงบันดาลใจของดิฉันในการเข้าตลาดหุ้นนี่แหละค่ะจากหนังสือ ตีแตก ที่ท่านเขียนไว้เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนวาดการ์ตูน "เมื่อเม่าตามรอยวีไอ" นี่จริงๆไม่เคยคิดฝันว่าจะมีโอกาสได้เจอระยะประชิดขนาดนี้ (คือตอนแรกกะวาดแล้วหนี) ><''
แอบฟังคนมีพอร์ตระดับสิบหลักคุยกัน (เสียมารยาทเนอะ) เลยได้อะไรเด็ดๆมาบอกเพื่อนๆแกงค์เม่า อิอิ จัดปายยยย รวยๆๆๆกันทุกคนนะจ๊ะ

Planking

เห็นว่ากำลังฮิต

พี่เม่าชวนเพื่อนๆมาทำ Planking

เผื่อไทยรัฐเอาไปขึ้นหน้าหนึ่งแบบอั้มบ้าง อุอุ

ผู้หญิงกับการลงทุน

คาดว่าทุกคนคงตั้งเป้าหมายในการออมเงินนะคะ
สำหรับเม่าเอง เธอมีเป้าหมายลึกๆในใจว่า

อยากมีเงินล้านก่อนอายุ 30

แต่ด้วยความที่เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมด๊า ธรรมดา ไม่ใช่เจ้าของกิจการ
การจะมีเงินล้านได้ต้องมีการวางแผนการลงทุนเป็น Step ค่อยๆเก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ
ซึ่งการเก็บเงินสำหรับผู้หญิงนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ^^
เพราะผู้หญิงจะมีรายจ่ายกระจุกกระจิกเยอะแยะ เช่นค่าเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แต่งหน้า เครื่องประดับ ต่างๆ แม้จะไม่ได้จ่ายทีเดียวเป็นก้อนใหญ่แบบผู้ชายที่ไม่ค่อยซื้อจุกจิกแต่มักซื้ออลังการ แต่ค่าใช้จ่ายพวกนี้จะคล้ายๆเบี้ยถังแตก  ยิ่งไม่ได้ทำบัญชีรายรับรายจ่าย จะยิ่งไม่รู้ว่าเงินหายไปไหนหมด เก็บตังค์จริงจังไม่ได้ซะทีทั้งที่ไม่ได้ใช้จ่ายอะไรฟุ่มเฟือยนี่นา :S

แผนการเงินของน้องเม่าเค้าต้องต่อสู้กับกิเลสความ(พยายาม)เซเลบของตัวเองอย่างมาก และสุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร รายละเอียดติดตามได้ในการ์ตูนนะคะ ^^

The Truth

คาดว่าตอนนี้ทุกคนกำลังแตกตื่น SET โดนขายแบบเลหลัง กรี๊ดๆ ยังงงๆอยู่ ดิฉันหันหน้าพึ่งทางธรรมไปเรียบร้อยแล้วค่ะ ไปเจอกลอนมาอ่านแล้วรู้สึกดีจัง เลยเอามาฝากกัน สู้ต่อไปนะเพื่อนๆเม่า T^T




อ่านกลอนต้นฉบับได้จากที่นี่ค่ะ ยาวและปลงดี

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=309034

Threshold

ช่วงนี้ตลาดหุ้นค่อนข้างเป็น sideway แบบลงๆอย่างไรพิกล หรือจะเป็นเฉพาะหุ้นที่ดิฉันถืออยู่ T^T
ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะใช้ช่วงเวลานี้ในการฝึกฝนจิตตัวเองซะเลย ฮ่าฮ่า

การ์ตูนตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นภาคต่อของตอน "จิตสงบ" ค่ะ
อ่านตอนจิตสงบได้ที่นี่จ้า http://www.maoinvestor.com/2011/05/blog-post.html

เป็นเรื่องของ Threshold บางท่านคงเคยได้ยินผ่านหูมาบ้าง

จริงๆ รอบๆ ตัวเรามีสิ่งเร้าอยู่เต็มไปหมด แต่เราจะรู้สึกได้เฉพาะสิ่งเร้าที่มีความเข้มเพียงพอเท่านั้น เช่นเมื่อเราชิมน้ำที่มีเกลือละลายอยู่ 0.99 กรัม เราก็จะรู้สึกเหมือนน้ำเปล่าธรรมดาๆ แต่เราจะเริ่มรับรู้ได้ว่าเค็ม เมื่อใช้เกลือ 1 กรัมในน้ำ 1 ลิตร ซึ่งระดับความเข้มของสิ่งเร้าที่น้อยที่สุดที่ทำให้เรารู้สึกได้เรียกว่า Threshold ในตัวอย่างนี้ Threshold คือ 1 กรัม

อาจจะสงสัยว่าศัพท์แนวจิตวิทยาแบบนี้จะมาเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตแบบเม่าๆ ได้ยังไง ต้องลองอ่านดูเองนะคะ ^^