เคยมีผู้กล่าวไว้ว่าตลาดหุ้น เป็นการซื้อขาย "อนาคต"
หากหุ้นตัวไหนมีแนวโน้มว่าจะมีผลประกอบการดี หุ้นตัวนั้นก็จะเป็นที่ต้องการของนักลงทุน จนทำให้ราคาของหุ้นนั้นๆ ดีดตัวขึ้นไปสูงขึ้นจนถึงราคาที่เหมาะสมก่อนที่ผลประกอบการจะออกมาจริงๆ เสียอีก (บางทีแย่งชิงกันจนขึ้นไปเกินมูลค่าซะเยอะ)
ดังนั้น ถ้าเราสามารถคาดการณ์แนวโน้มของบริษัทได้ก่อนนักลงทุนท่านอื่น เราก็น่าจะได้หุ้นในราคา "ไม่แพง" จากนั้นก็เพียงแค่นั่งเฉยๆ รอเวลาให้มูลค่าหุ้นปรับตัวสูงขึ้นตามที่เราคะเนไว้ แค่นี้ก็น่าจะ"รวย" ได้ไม่ยาก
แต่การคาดการณ์ล่วงหน้า ก็เป็นเพียงการจินตนาการถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น สำหรับคนธรรมดาที่ไม่ได้มีญาณหยั่งรู้ นอกจากจะศึกษาพื้นฐานบริษัทให้แตกฉานแล้ว อาจจะต้องพ่วงศาสตร์อื่นๆเข้ามาด้วยนะคะ เช่น อุตุนิยมวิทยา อุทกศาสตร์ โหราศาสตร์ ฯลฯ
อยากเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จต้องรอบรู้จริงๆนะเนี่ย...
หากหุ้นตัวไหนมีแนวโน้มว่าจะมีผลประกอบการดี หุ้นตัวนั้นก็จะเป็นที่ต้องการของนักลงทุน จนทำให้ราคาของหุ้นนั้นๆ ดีดตัวขึ้นไปสูงขึ้นจนถึงราคาที่เหมาะสมก่อนที่ผลประกอบการจะออกมาจริงๆ เสียอีก (บางทีแย่งชิงกันจนขึ้นไปเกินมูลค่าซะเยอะ)
ดังนั้น ถ้าเราสามารถคาดการณ์แนวโน้มของบริษัทได้ก่อนนักลงทุนท่านอื่น เราก็น่าจะได้หุ้นในราคา "ไม่แพง" จากนั้นก็เพียงแค่นั่งเฉยๆ รอเวลาให้มูลค่าหุ้นปรับตัวสูงขึ้นตามที่เราคะเนไว้ แค่นี้ก็น่าจะ"รวย" ได้ไม่ยาก
แต่การคาดการณ์ล่วงหน้า ก็เป็นเพียงการจินตนาการถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น สำหรับคนธรรมดาที่ไม่ได้มีญาณหยั่งรู้ นอกจากจะศึกษาพื้นฐานบริษัทให้แตกฉานแล้ว อาจจะต้องพ่วงศาสตร์อื่นๆเข้ามาด้วยนะคะ เช่น อุตุนิยมวิทยา อุทกศาสตร์ โหราศาสตร์ ฯลฯ
อยากเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จต้องรอบรู้จริงๆนะเนี่ย...
ว้าว ๆ ๆ มาเม้นที่ blog คนแรกดีใจจัง
ตอบลบป.ล. ว่าแต่พี่เม่าแต่งกับคุณอัศวินรึเปล่าครับ อยากรู้ แหะ ๆ
555+
ตอบลบตอนนี้มันจี๊ดโดนสะกิดต่อมจริงๆ
ตอบลบคำเดียวสั้นๆ "โดนใจ" T_T
ตอบลบสนุกจริง ตอนนี้
ตอบลบเหมือนลูกพี่ผมที่บริษัทเลย อิอิ
ตอบลบโดนเต็มๆ
ตอบลบ